MindMap Gallery หิน
หิน แร่ประกอบหิน
Edited at 2021-07-27 07:21:29หิน
หิน คือ
หิน
stone )เป็นของแข็งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นสารผสมที่เกิดจากการเกาะตัวกันแน่นของ
ตั้งแต่ 1 ชนิดขึ้นไป หรือ เป็นสารผสมของแร่กับ หรือ แร่กับ หรือของแข็งอื่น ๆ หินมีหลายลักษณะ รูปร่างที่แตกต่างกันออกไป มีสีสันที่ต่างกันออกไป ตามถิ่นที่อยู่
มวลของแข็งที่ประกอบไปด้วยแร่ชนิดเดียวกัน หรือหลายชนิดรวมตัวกันอยู่ตามธรรมชาติ เนื่องจากองค์ประกอบของเปลือกโลกส่วนใหญ่เป็นสารประกอบซิลิกอนไดออกไซด์ (SiO2) ดังนั้นเปลือกโลกส่วนใหญ่มักเป็นแร่ตระกูล ซิลิเกต นอกจากนั้นยังมีแร่ตระกูลคาร์บอเนต เนื่องจากบรรยากาศโลกในอดีตส่วนใหญ่เป็นคาร์บอนไดออกไซด์ น้ำฝนได้ละลายคาร์บอนไดออกไซด์บนบรรยากาศลงมาสะสมบนพื้นดินและมหาสมุทร สิ่งมีชีวิตอาศัยคาร์บอนสร้างธาตุอาหารและร่างกาย แพลงตอนบางชนิดอาศัยซิลิกาสร้างเปลือก เมื่อตายลงทับถมกันเป็นตะกอน หินส่วนใหญ่บนเปลือกโลกจึงประกอบด้วยแร่ต่างๆ
แร่ประกอบหิน
ตระกูลซิลิเกต
เฟลด์สปาร์ (Feldspar) เป็นกลุ่มแร่ที่มีมากกว่าร้อยละ 50 ของเปลือกโลก ซึ่งเป็นองค์ประกอบส่วนใหญ่ของหินหลายชนิดในเปลือกโลก เฟลด์สปาร์มีองค์ประกอบหลักเป็นอะลูมิเนียมซิลิเกต รูปผลึกหลายชนิด เมื่อเฟลด์สปาร์ผุพังจะกลายเป็นอนุภาคดินเหนียว (Clay minerals)
ควอรตซ์ (SiO2)
เป็นซิลิกาไดออกไซด์บริสุทธิ์ มีรูปผลึกทรงหกเหลี่ยมยอดแหลม มีอยู่ทั่วไปในเปลือกทวีป แต่หาได้ยากในเปลือกมหาสมุทรและแมนเทิล เมื่อควอรตซ์ผุพังจะกลายเป็นอนุภาคทราย (Sand) ควอรตซ์มีความแข็งแรงมาก ขูดแก้วเป็นรอย
ไมก้า (Mica) เป็นกลุ่มแร่ซึ่งมีรูปผลึกเป็นแผ่นบาง มีองค์ประกอบเป็นอะลูมิเนียมซิลิเกตไฮดรอกไซด์ มีอยู่ทั่วไปในเปลือกทวีป ไมก้ามีโครงสร้างเช่นเดียวกับ แร่ดินเหนียว (Clay minerals) ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของดิน
แอมฟิโบล (Amphibole group) มีลักษณะคล้ายเฟลด์สปาร์แต่มีสีเข้ม มีองค์ประกอบเป็นอะลูมิเนียมซิลิเกตไฮดรอกไซด์ ที่มีแมกนีเซียม เหล็ก หรือ แคลเซียม เจือปนอยู่ มีอยู่แต่ในเปลือกทวีป ตัวอย่างของกลุ่มแอมฟิโบลที่พบเห็นทั่วไปคือ แร่ฮอร์นเบลนด์ ซึ่งอยู่ในหินแกรนิต
ไพร็อกซีน (Pyroxene group)
มีสีเข้ม มีองค์ประกอบที่เป็นแมกนีเซียมและเหล็กซิลิเกตอยู่มาก มีลักษณะคล้ายแอมฟิโบล มีอยู่แต่ในเปลือกมหาสมุทร
โอลิวีน (Olivine)
มีองค์ประกอบหลักเป็นแมกนีเซียมและเหล็กซิลิเกต มีอยู่น้อยมากบนเปลือกโลก กำเนิดจากแมนเทิลใต้เปลือกโลก
ตระกูลคาร์บอเนต
แคลไซต์ (Calcite) เป็นแคลเซียมคาร์บอเนต (CaCO3) เป็นองค์ประกอบหลักของหินปูนและหินอ่อน โดโลไมต์ (Dolomite) ซึ่งเป็นแร่คาร์บอเนตอีกประเภทหนึ่งที่มีแมงกานีสผสมอยู่ CaMg(CO3) 2 แร่คาร์บอเนตทำปฏิกิริยากับกรดเป็นฟองฟู่ให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา
ปัจจัยที่ที่ทำให้เกิดหินตะกอนหรือหินชั้น มีดังต่อไปนี้ ❑การผุพัง (Weathering) ❑การกร่อน (Erosion) ❑การพัดพา (Transportation) ❑การทับถม (Deposit) ❑การกลับคืนเป็นหิน (Lithification)
หินอัคนี (igneous)
คือ หินที่เกิดจากการรวมตัวของแร่ที่ตกผลึกจากสารหลอมละลายหรือหิน
หนืด หรือ Magma (หินหนืดที่ถูกผลักดันสู่ผิวโลกหรือเรียกหินละลาย
หรือ lava) ที่อุณหภูมิสูง ประกอบด้วยสารประกอบจ าพวกซิลิเกตเป็น
ส่วนใหญ่ที่มีก าเนิดอยู่ใต้ผิวโลกลึกลงไป
แบ่งได้เป็น 2 ชนิดตามลักษณะเนื้อหิน (Texture)
และสถานที่ๆ แร่ตกผลึกคือ
1. หินอัคนีแทรกซอน (Intrusive igneous rocks)
2. หินอัคนีพุ (Extrusive igneous rocks)
หินตะกอน (Sedimentary Rock)
คือหินที่เกิดจากการแข็งตัวและอัดตัวของตะกอนเศษหินหรือ
สารละลายที่ถูกตัวกลางเช่น ลมและน้ าพัดพามาและสะสมอัดตัวกัน
บนที่ต่ า ๆ ของผิวโลก เป็นชั้นๆ เกิดความกดดันและปฏิกิริยาเคมีจน
กลับกลายเป็นหินอีกครั้ง ซึ่งอาจเรียกอีกอย่างว่า“หินชั้น”
ประเภทของหินตะกอน
นักธรณีวิทยาจ าแนกหินตะกอนตามลักษณะการเกิดออกเป็ น 3 กลุ่มคือ
1. หินตะกอนอนุภาอ (Clastic rocks)
2. หินตะกอนเอมี (Chemical sedimentary rocks)
3. หินตะกอนอินทรีย์ (Organic sedimentary rocks)
หินแปร (Metamorphic rocks)
อือ หินที่แปรสภาพไปจากโดยการกระท าของอวามร้อน
แรงดัน และปฏิกิริยาเอมี หินแปรบางชนิดยังแสดงเอ้าเดิม
บางชนิดผิดไปจากเดิมมากจนต้องอาศัยด ูรายละเอียดของ
เนื้อใน หรือสภาพสิ่งแวดล้อมจึงจะทราบที่มา อย่างไรก็ตาม
หินแปรชนิดหนึ่งๆ จะมีองอ์ประกอบเดียวกันกับหินต้น
ก าเนิด แต่อาจจะมีการตกผลึกของแร่ใหม่ เช่น หินชนวนแปร
มาจากหินดินดาน หินอ่อนแปรมาจากหินปูน เป็ นต้น