หน่วยที่ 2 การกำหนดปัญหาการวิจัยและการศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง (ภัทรมาศ)

การกำหนดปัญหาการวิจัย และการศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องปัญหา การวิจัยการตั้งชื่อเรื่อง การวิจัยการเขียนวัตถุประสงค์ ของการวิจัยเอกสารที่เกี่ยวข้อง กับการวิจัยความหมาย ปัญหาการวิจัย (Research problem) หมายถึง ประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับ เหตุการณ์หรือปรากฏการณ์ ต่าง ๆ ที่ผู้วิจัยต้องการดำเนินการหาคำตอบโดยใช้กระบวนการวิจัยเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและตรงกับข้อเท็จจริงสาเหตุปัญหาการวิจัย 1.ตัวแปรที่ใช้ทำวิจัยมีอยู่มากมาย 2.ไม่มีปัญหาหรือข้อสงสัยใดที่หาคำตอบได้ครบสมบูรณ์3.ความรู้ข้อค้นพบทฤษฎีต่างๆที่สะสมไว้นั้นมีจำนวนมากลักษณะของปัญหาการวิจัยที่ดี 1.เป็นปัญหาที่มีความสำคัญและเป็นประโยชน์ 2.ปัญหาการวิจัยนั้นต้องสามารถหาคำตอบได้ 3.ปัญหาการวิจัยควรสอดคล้องกับประสบการณ์ ความสนใจและความถนัดของผู้วิจัย 4. เป็นปัญหาที่แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร ตั้งแต่สองตัวขึ้นไป 5.เป็นปัญหาที่ไม่ซ้ำกับผู้อื่น 6.สามารถกำหนดระยะเวลาแรงงานและทุนทรัพย์ ในการดำเนินการได้แหล่งที่มาของปัญหาการวิจัย 1. จากประสบการณ์ของผู้วิจัย 2.จากทฤษฎีหรือแนวคิดที่เกี่ยวข้อง 3.จากการอ่านหนังสือหรือวารสารที่เกี่ยวข้อง กับการวิจัย 4. จากแรงที่ให้ทุนอุดหนุนการวิจัย 5. จากบทคัดย่องานวิจัยหรือวิทยานิพนธ์ 6.จากข้อเสนอแนะของผลงานวิจัยที่ทำมาแล้ว 7.วารสารวิจัยเฉพาะสาขาวิชา 8.นำคำพูดข้อเสนอหรือข้อคิดจากผู้รู้หรือ ผู้ทำงานในสาขานั้นนั้นมาคิดเพื่อตรวจสอบ คำพูด ข้อเสนอเกณฑ์การเลือกปัญหาการวิจัย 1.เกณฑ์ความสนใจ 2. เกณฑ์เกี่ยวกับความสามารถของผู้วิจัย 3.เกณฑ์เกี่ยวกับเศรษฐกิจและการประหยัด 4.เกณฑ์เกี่ยวกับความเป็นเอกลักษณ์ 5. เกณฑ์เกี่ยวกับคุณค่าของปัญหา 6.เกณฑ์เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย ต่อการวิจัยกระบวนการวิเคราะห์ปัญหาการวิจัย กระบวนการวิเคราะห์ปัญหาการวิจัยอาจกระทำ ได้หลายวิธี วิธีการวิเคราะห์ปัญหาโดยใช้วิธีการ เชิงระบบจะมี 4 ส่วนคือ 1. บริบท(context) 2. ปัจจัยป้อนเข้า (input) 3. กระบวนการ(process) 4. ผลผลิต(product)การเขียนปัญหาการวิจัย 1.ปัญหาการวิจัยเขียนในลักษณะของความสัมพันธ์ ระหว่างตัวแปรสองตัวหรือมากกว่า 2.ปัญหาการวิจัยควรเขียนในรูปประโยคคำถาม 3.ปัญหาการวิจัยนั้นจะต้องเขียนในรูปที่สามารถ ทดสอบเชิงประจักษ์หรือใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ทดสอบหาคำตอบได้1.ลักษณะการศึกษา2. ตัวแปรที่ศึกษา3. กลุ่มเป้าหมายที่ศึกษาชื่อเรื่องวิจัยควรระบุว่าใช้วิธีการศึกษาแบบใดชื่อเรื่องวิจัยควรระบุตัวแปรที่ทำการศึกษาหรือบางครั้งอาจจะระบุตัวแปรอิสระและตัวแปรตามที่จะศึกษาด้วยชื่อเรื่องวิจัยควรระบุว่าประชากร และกลุ่มตัวอย่างหรือกลุ่มเป้าหมาย ว่าเป็นใครหลักการเขียนวัตถุประสงค์ของการวิจัย1. จะต้องระบุให้ชัดเจนว่าต้องการ ศึกษาในเรื่องอะไร2.ต้องเขียนให้สอดคล้องกับปัญหา การวิจัย3.ใช้ภาษาที่กระทัดรัดแต่ได้ใจความชัดเจน4.นิยมเขียนในรูปประโยคบอกเล่า5.กรณีที่วัตถุประสงค์ของการวิจัย มีหลายข้อต้องเขียนเป็นข้อๆส่วนประกอบของวัตถุประสงค์ของงานวิจัยการเขียนวัตถุประสงค์ของการวิจัย จะขึ้นต้นด้วย "เพื่อ" แล้วตามด้วย ลักษณะ 3 ประการดังนี้1.ลักษณะของการศึกษา เป็นการบ่งบอกว่าจะศึกษาในลักษณะใด2.ตัวแปรผู้วิจัยจะต้องกำหนดว่าจะศึกษา เกี่ยวกับตัวแปรอะไร3.กลุ่มตัวอย่างหรือกลุ่มเป้าหมาย ควรระบุว่ากลุ่มตัวอย่างหรือกลุ่มเป้าหมายที่จะทำการศึกษาว่าเป็นใครนางสาวภัทรมาศ ภะวะศิริกุล 63632233204ความหมายของเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยประเภทของเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยประโยชน์ของการศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยวัตถุประสงค์ของการค้นคว้าเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยการเลือกเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยการเขียนรายงานเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยเอกสารที่เป็นแหล่งข้อมูลซึ่งได้แก่ตำราบทความหรือรายงานการวิจัยที่มีความสำคัญพอที่ จะอ้างอิงได้กับงานวิจัยที่ผู้วิจัยทำเอกสารอ้างอิงทั่วไปเอกสารปฐมภูมิเอกสารทุติยภูมิทำให้ทราบข้อเท็จจริงทฤษฎีหลักการความรู้ช่วยกำหนดปัญหาการวิจัยให้เหมาะสมและมีคุณค่าหลีกเลี่ยงการทำวิจัยซ้ำกับผู้อื่นเป็นการแสดงถึงทิศทางและแนวโน้มของ การวิจัยที่ผ่านมาเป็นการเรียนรู้งานวิจัยที่ผ่านมาให้เกิดความเข้าใจอย่างกระจ่างในหัวข้อปัญหาการวิจัยช่วยในการเลือกตัวแปรช่วยในการกำหนดแบบแผนวิธีวิจัยเพื่อให้เกิดความกระจ่างชัดในปัญหาเพื่ออธิบายความสัมพันธ์ของตัวแปรที่ศึกษาเพื่อศึกษาแนวคิดทฤษฎีและวิธีการในการที่จะอธิบายปัญหาให้ชัดเจนเพื่อศึกษาแนวคิดทฤษฎีต่างๆที่เกี่ยวข้อง กับตัวแปรที่ศึกษาเพื่อนำความรู้ต่างๆที่ได้ศึกษามาสร้างเป็น สมมุติฐานการวิจัยเพื่อหาแนวทางในการวิจัยที่เหมาะสมกับปัญหาเพื่อเป็นแนวทางในการรายงานผลการวิจัยความรู้ในเนื้อหาในเอกสารนั้นมีความถูกต้องเอกสารนั้นมีความทันสมัยเป็นความรู้ใหม่หรือเป็นเรื่องที่ทันสมัยเอกสารนั้นมีหนังสืออ้างอิงเอกสารนั้นได้เสนอแนวคิดอันเป็นประโยชน์ต่อผู้วิจัยเอกสารนั้นเป็นเครื่องชี้นำในการศึกษาข้อมูลของผู้วิจัยความรู้ในเอกสารนั้นมีประโยชน์ตรงกับความต้องการของผู้วิจัยผู้แต่งมีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในงานเขียนเป็นอย่างดีภาพประกอบตารางภาพหรือแผนที่ถูกต้องชัดเจนพิมพ์จากโรงพิมพ์หรือสำนักพิมพ์ที่เชื่อถือได้การจัดรูปแบบรายงานการเขียนรายงาน
64