ภาษาเเละการสื่อสาร
606
1
1
ภาษาเเละการสื่อสาร
สภาพปัญหาการใช้ภาษาไทยในชีวิตประจําวัน
คุณสามารถสร้างแผนที่ความคิดของคุณเองได้อย่างง่ายดายด้วย EdrawMind
สภาพปัญหาการใช้ภาษาไทยในชีวิตประจําวัน
คุณสามารถสร้างแผนที่ความคิดของคุณเองได้อย่างง่ายดายด้วย EdrawMind
Tags:
Similar Mind Maps
Outline


สภาพปัญหาด้านการฟัง
-ผู้ฟัง ฟังไม่รู้เรื่องเพราะไม่สามารถจับใจความสำคัญของเรื่องได้
-ผู้ฟังขาดความตั้งใจในการฟัง
-ผู้ฟังขาดการฝึกฝนด้านการฟัง
สภาพปัญหาด้านการพูด
ผู้พูดออกเสียง ร ล และควบกล้ำไม่ชัดเจน
ผู้พูดใช้ถ้อยคำผิด ระดับของภาษาไม่ถูกต้องตามกาลเทศะหรือบุคคล
ผู้พูดขาดความเชื่อมั่นในตนเอง
สภาพปัญหาด้านการอ่าน
สาเหตูที่ทำให้เกิดปํญหาด้านการอ่าน
ไม่ชอบอ่านหนังสือ
ไม่รักการอ่าน
ขาดวิจารณญาณในการอ่าน
สภาพปํญหาด้านการอ่าน
ผู้อ่านออกเสียงคำที่อ่านไม่ถูกต้อง เพราะเคยชินหรือจำมาผิดๆ
ผู้อ่านขาดความรู้ในการอ่าน
ผู้อ่านเว้นวรรคตอนไม่ถูก
ผู้อ่านจับใจความสำคัญของเรื่องไม่ได้
สภาพปัญหาด้านการเขียน
ผู้เขียนสะกดคำผิด เป็นเพราะความเคยชิน
ผู้เขียนเว้นวรรคตอนผิด
ผู้เขียนใช้คำ สำนวน ภาษาเเละประโยคไม่ถูกต้อง
ผู้เขียนขาดทักษะในการศึกษาค้นคว้าข้อมูล

ความสัมพันธ์ด้านความหมาย
ความหมายซึ่งเกิดในกระบวนการใช้ภาษากับการสื่อสารคือความพยายามที่จะเข้าถึงเนื้อเเท้ของภาษา เพื่อให้เกิดความเข้าใจและรับรู้ตรงกัน ความสัมพันธ์ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความหมายจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้ใช้ภาษาและผู้ทำการสื่อสารต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะหากสามารถใช้สารหรือข้อความที่มีความหมายสื่อไปยังอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งเป็นผู้รับรู้สารได้อย่างถูกต้องชัดเจน ก็จะทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่ดีด้วยกันทั้งสองฝ่าย
ความสัมพันธ์ด้านวัตถุประสงค์l
เพื่อให้ความรู้เเละข้อมูลข่าวสาร
เพื่อให้เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ
เพื่อให้เกิดการติดต่อประสานงานเเละสร้างสรรค์งานร่วมกัน
ความสัมพันธ์ด้านบทบาทเเละหน้าที่ผู้ส่งสารและผู้รับสารจึงควรศึกษาความสัมพันธ์ในด้านบทบาทเเละหน้าที่
บทบาทเเละหน้าที่ของผู้ส่งสาร
มีความรู้เกี่ยวกับสารหรือเนื้อหาที่ตนต้องการจะสื่อไปยังผู้รับสารและรู้จักเลือกใช้ภาษาให้ถูกต้อง
กำหนดจุดมุ่งหมายของเนื้อหาเเละมีเจตนาที่เเน่ชัดที่จะให้ผู้รับสารได้รับทราบเรื่องราวของตน
คำนึงถึงความสามารถเเละความพร้อมในการรับรู้สารของผู้รับสารที่ตนต้องการจะสื่อสารด้วย
บทบาทเเละหน้าที่ของผู้รับสาร
มีความสามารถในการกำหนดรู้ความหมายของสารหรือเรื่องราวต่างๆที่ผู้ส่งสารติดต่อมาถึงตนได้อย่างถูกต้อง
มีความรู้พื้นฐานทางด้านภาษาและกระตือรือร้นที่จะแสดงปฏิกิริยาสนองตอบต่อสาร

อุปสรรคด้านการสื่อสาร
1.อุปสรรคที่เกิดจากผู้ส่งสาร : ถ้าผู้ส่งสารขาดความรู้ความเข้าใจที่เพียงพอต่อการสื่อสารเเล้ว การสื่อสารย่อมขาดประสิทธิผล ผู้ส่งสารที่ดีจึงต้องมีความพร้อมต่อการสื่อสาร
2.อุปสรรคที่เกิดจากสาร : คุณภาพเเละปริมาณของสารลักษณะความเหมาะสมเเละความต่อเนื่องของเนื้อหาสาร ความหมายของสารที่เเตกต่างกัน สารที่ขัดต่อความคิดความเชื่อเเละค่านิยม
3.อุปสรรคที่เกิดจากช่องทางการสื่อสาร :การใช้ช่องทางการสื่อสารที่ไม่เหมาะสม อุปสรรคที่เกิดจากสภาพเเวดล้อมหรือสถานการณ์ในขณะที่ทำการสื่อสารไม่ดี
4.อุปสรรคที่เกิดจากผู้รับสาร : เนื่องมาจากการเลือกในการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเปิดรับ การเลือกให้ความสนใจ การเลือกรับรู้เเละการตีความและการเลือกจำ
เเนวทางเเก้ไข
1.การเเก้ไขที่ผู้ส่งสาร ผู้ส่งสารที่ดีควรจะมีลักษณะ ดังนี้
ทักษะในการสื่อสาร
ทัศนคติในการสื่อสาร
ความเข้าใจในสถานภาพของระบบสังคมเเละวัฒนธรรม
2.การเเก้ไขที่สาร ผู้ส่งสารที่ดีควรจะมีลักษณะ ดังนี้
สารนั้นจะต้องมุ่งถึงผู้รับสารและได้รับความสนใจจากผู้รับสาร
สารต้องมีสัญลักษณ์ที่เเสดงถึงความเหมือนกันของผู้ส่งสารเเละผู้รับสาร
3.การเเก้ไขที่สื่อหรือช่องทาง ช่องทางการสื่อสารที่ดีควรจะมีลักษณะ ดังนี้
ความเหมาะสมของสื่อกับผู้ส่งสาร ,ความเหมาะสมของสื่อกับเนื้อหา
4. การเเก้ไขที่ผู้รับสาร ผู้รับสารที่ดีควรจะมีลักษณะ ดังนี้
ทักษะในการสื่อสาร ทัศนคติในการสื่อสาร ระดับความรู้

1.วัตถุประสงค์ของผู้ส่งสาร
1.เพื่อเเจ้งให้ทราบ 2.เพื่อสอนรือให้การศึกษา 3.เพื่อสร้างความพอใจหรือความบันเทิง 4.เพื่อเสนอหรือชักจูง
2.วัตถุประสงค์ของผู้รับสาร
1.เพื่อทราบ 2.เพื่อเรียนรู้ 3.เพื่อหาความพอใจ 4.เพื่อกระทำหรือตัดสินใจ

การจำเเนกของการสื่อสารโดยใช้เกณฑ์ในการจำเเนกที่สำคัญ 5 เกณฑ์
1.เส้นทางการไหลของข่าวสาร เเบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1.การสื่อสารทางเดียว (One-Way Communication)คือ การสื่อสารที่ข่าวสารจะถูกส่งจากผู้ส่งไปยังผู้รับในทิศทางเดียว
2.การสื่อสารสองทาง (Two-Way Communication) คือการที่มีการขนส่งข่าวสารตอบกลับไปมาระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับ
2.จำนวนของผู้ทำการสื่อสาร แบ่งออกได้เป็น 5 ประเภท คือ
1.การสื่อสารภายในบุคคล (Intrapersonal Communication)เป็นการสื่อสารของบุคคลเดียว เกิดขึ้นภายในตัวของบุคคล ทำหน้าที่เป็นทั้งผู้ส่งสารเเละผู้รับสาร
2.การสื่อสารระหว่างบุคคล (Intrapersonal Communication) ประกอบด้วยตั้งเเต่บุคคล 2 คนขึ้นไป ทำการสื่อสารที่ผู้รับสารเเละผู้ส่งสารสามารถเเลกเปลี่ยนกันได้โดยตรงและเป็นการสื่อสารเเบบตัวต่อตัว
3.การสื่อสารกลุ่มใหญ่ (Large Group Communication) เป็นการสื่อสารที่ประกอบด้วยคนจำนวนมาก ซึ่งมารวมอญู่ที่เดียวกันหรือใกล้เคียงกัน
4.การสื่อสารในองค์การ (Organizational Communication) ระหว่างผู้ที่เป็นสมาชิกองค์การหรือหน่วยงานที่เป็นทางการ
5.การสื่อสารมวลชน (Mass Communication)เป็นการสื่อสารที่ถ่ายทอดความรู้ข่าวสารโดยสื่อมวลชน (Mass media)ไปยังผู้รับที่มีจำนวนมาก
3.ภาษาหรือสัญลักษณ์เเบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1.การสื่อสารเชิงวัจนภาษา (Verbal Language Communication)หมายถึงการสื่อสารโดยใช้ภาษาพูด หรือภาษาเขียนในการสื่อสาร
2.การสื่อสารเชิงอวัจนภาษา(Non-Verbal Language Communication) หมายถึงการสื่อสารโดยใช้รหัสหรือสัญลักษณ์อย่างอื่น ที่ไม่ใช่ภาษาพูดหรือภาษาเขียนในการสื่อสาร
4.การเห็นหน้ากัน เเบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1.การสื่อสารเเบบเฉพาะหน้า (Face-to-face Communication) การสื่อสารที่ผู้ส่งสารเเละผู้รับสารสามารถเห็นหน้าซึ่งกันเเละกันได้
2.การสื่อสารเเบบมีสิ่งสกัดกั้น(Interposed Communication)การสื่อสารที่ผู้ส่งสารเเละผู้รับสารไม่สามารภเห็นหน้ากันได้เพราะอยู่ไกล ต่างสถานที่กัน
5.ความเเตกต่างระหว่างผู้ส่งสารเเละผู้รับสาร เเบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
1.การสื่อสารระหว่างเชื่อชาติ (Interracial Communication) 2.การสื่อสารระหว่างวัฒนธรรม (Cross-cultural or Intercultural Communication)3.การสื่อสารระหว่างประเทศ (International Communication)

องค์ประกอบของการสื่อสารคือ ส่วนที่นำมาประกอบกัน เพื่อทำให้เกิดการสื่อสาร หากขาดองค์ประกอบใดประกอบหนึ่ง เเล้วจะทำให้การสื่อสารนั้นไม่สมบูรณ์ การสื่อสารมีองค์ประกอบที่สำคัญ 5 ประการ ดังนี้
1.ผู้ส่งสาร (Sender)คือบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นผู้สร้างเเละถ่ายทอดสารต่างๆไปยังผู้รับด้วยวิธีการพูด การเขียน การใช้กริยาท่าทาง หรือสัญลักษณ์อื่นๆ
2.สาร(Message)เรื่องราวหรือข้อความที่ผู้ส่งสารต้องการถ่ายทอดให้ผู้รับสารได้รับรู้
3.สื่อหรื่อช่องทางส่งสาร (Channel or Medium )หมายถึงสิ่งที่ทำหน้าที่นำสารไปยังผู้รับสาร
4.ผู้รับสาร(Receiver)คือบุคคลที่เป็นจุดหมายปลายทางในกระบวนการสื่อสาร ผู้รับสารอาจเป็นคนเดียวหรือหมู่คณะก็ได้ มีบทบาทกำหนดรู้ความหมายตามเรื่องราวที่ผู้ส่งสารส่งผ่านสื่อมาถึงตน
5.ปฏิกิริยาย้อนกลับ (Feedback)คือการเปลี่ยนเเปลงท่าทีเเละพฤติกรรมของผู้รับสาร เมื่อได้รับสารนั้น ว่าพฃพอใจหรือไม่พอใจ เช่นการยิ้ม

ความหมายของการสื่อสาร
การสื่อสารตรงกับคำภาษาอังกฤษว่า Communication ซึ่งมาจากรากศัพท์ภาษาละตินว่า Communis หมายถึง ร่วมกัน
การสื่อสารหมายถึง กระบวนการของการติดต่อกัน โดยมีผู้ส่ง(Source) ฝ่ายหนึ่งส่งสาร(Message) ผ่านสื่อหรือช่องทาง (Chanel) ไปยังผู้รับ (Receiver)
ความสำคัญของการสื่อสาร สำหรับบุคคลและสังคม 5 ประการ
1.ความสำคํญต่อความเป็นสังคม 2.ความสำคัญต่อชีวิตประจำวัน 3.ความสำคัญต่ออุตสาหกรรมเเละธุรกิจ 4.ความสำคัญต่อการปกครอง 5.ความสำคัญต่อการเมืองระหว่างประเทศ

ความหมายของภาษา
คำว่า "ภาษา"มาจากคำในภาษาสันสกฤต ส่วนในภาษาบาลีใช้คำว่า "ภาสาซึ่งเเปลว่า พูด กล่าว หรือบอก ภาษา หมายถึง เครื่องมือหรือระบบการใช้สัญลักษณื อาจเป็นเสียงหรือกิริยาอาการ ที่ใช้สื่อความหมาย ถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด อันจะก่อให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันเเละกัน
ความสำคัญของภาษา
1.ภาษาเป็นวัฒนธรรม เป็นสิ่งที่มนุษย์คิดขึ้นหรือสร้าขึ้น และมีการถ่ายทอด 2.ภาษาเป็นสมบัติของสังคม 3.ภาษาเป็นสื่อ หรือเป็นเครื่องมือใช้สำหรับติดต่อสื่อสาร 4.ภาษาเป็นเครื่องมือพัฒนามนุษย์ 5.ภาษาเป็นทั้งศาสตร์เเละศิลป์ที่มีระเบียบกฎเกณฑ์และมีความงดงามด้านเสียงเเละความหมายอยู่ในตัวของภาษา